ขนมชิ้นเล็กที่กลายเป็นสัญลักษณ์อังกฤษ

ลองหลับตานึกถึงบรรยากาศ “Afternoon Tea” กันสิคะ … โต๊ะไม้ปูด้วยผ้าลินินขาวสะอาด จัดชุดน้ำชาสวย ๆ พร้อมจานขนมหลากหลาย และใช่ค่ะ! สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สโคน (Scone) ขนมอบกลม ๆ เนื้อนุ่มฟูที่เสิร์ฟคู่ครีมและแยมผลไม้

แต่เดี๋ยวก่อน… รู้หรือไม่ว่า สโคนไม่ได้เกิดที่อังกฤษ อย่างที่หลายคนคิด! 🎩 จริง ๆ แล้วเจ้าขนมอบกลม ๆ ชิ้นนี้มีเรื่องเล่าย้อนกลับไปถึงสกอตแลนด์เลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นของสโคน

ว่ากันว่า บรรพบุรุษของสโคนคือขนมพื้นบ้านชื่อว่า Bannocks ทำจากข้าวโอ๊ต นำไปอบบนแผ่นหินร้อน ๆ หรือกระทะก้นแบน แล้วตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมเหมือนพิซซ่า 🍕 กินง่าย พกสะดวก เหมาะกับนักเดินทางและชาวไร่ในสมัยนั้นสุด ๆ

พอเวลาผ่านไป วงการขนมก็มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ผงฟู (Baking Powder) เข้ามา ทำให้แป้งอบฟูนุ่มกว่าเดิม ชาวเวลส์เลยหยิบ Bannocks มาปรับสูตรให้เล็กลง กินง่ายขึ้น และ ใช่ค่ะ ได้เป็น สโคนทรงกลม อย่างที่เรารู้จักในทุกวันนี้

ชื่อ “Scone” มาจากไหนกันนะ?

เรื่องนี้มีหลายทฤษฎีมากค่ะ 😆

• บ้างว่า มาจากภาษาดัตช์คำว่า “schoonbrot” = ขนมปังสวยงาม
• บางทีก็โยงไปภาษาสก็อต “sconbroot” = ขนมปังบ้าน ๆ
• และยังมีเรื่องเล่าขำ ๆ ว่า ขนมนี้ตั้งชื่อตาม หินแห่งสโคน (Stone of Scone) หินราชาภิเษกของกษัตริย์สกอตแลนด์ เพราะรูปทรงคล้ายก้อนหิน 

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประวัติสโคน ไม่ได้มีคำตอบเดียว แต่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและเสน่ห์ที่น่าค้นหา

จากชาวบ้านสู่โต๊ะหรู

เรื่องราวเปลี่ยนไปจริงจังในศตวรรษที่ 19 เมื่อ Anna, Duchess of Bedford เกิดหิวตอนบ่าย และไม่อยากรอถึงมื้อค่ำ เธอเลยจัด “Afternoon Tea” ขึ้นมา และหนึ่งในขนมที่ถูกเสิร์ฟทุกบ่ายก็คือ… สโคน! 

แถมเธอยังติดใจสโคนมากจนสั่งทุกวัน กลายเป็นเทรนด์หรูหราในสังคมวิกตอเรีย ไม่นานสุภาพสตรีทั่วอังกฤษก็พร้อมใจกันตั้งวงน้ำชา จัดโต๊ะสวย ๆ ดื่มชาเข้ม ๆ แล้วหยิบสโคนอังกฤษร้อน ๆ มากินคู่ครีมสดและแยม สวยหรูแต่ก็อร่อยเรียบง่าย

สโคนยุคนี้

ทุกวันนี้สโคนก็ยังครองใจคนทั่วโลก แต่ไม่ได้มีแค่แบบดั้งเดิมอีกต่อไปนะคะ มีทั้ง มัทฉะ สตรอว์เบอร์รี เลมอนเคิร์ด หรือแม้แต่สโคนคาวที่กินคู่กับซุปหรือสลัดก็มี 🥗 บอกเลยว่า “สโคน” เป็นขนมที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัย

จาก ขนมโฮมเมดพื้นบ้านของสกอตแลนด์ สู่สัญลักษณ์ของ Afternoon Tea และต่อยอดจนกลายเป็นเมนูคาเฟ่ทั่วโลก … สโคน จึงไม่ใช่แค่ขนม แต่เป็นวัฒนธรรม และเป็นหนึ่งใน ของหวานน่ารู้ ที่บอกเล่าเรื่องราวความละเมียดละไมของอังกฤษได้อย่างชัดเจน

✨ เกร็ดความรู้ขนม: สูตรสโคนแบบโบราณดั้งเดิมไม่มีผงฟูหรือยีสต์นะคะ ใช้แค่ความร้อนจากกระทะให้แป้งฟูขึ้นเองแบบธรรมชาติเลย